รีวิว Museum (2016) – พิพิธภัณฑ์นรก

เมื่อฆาตกรต่อเนื่องสร้าง “พิพิธภัณฑ์แห่งความตาย” และตำรวจต้องสืบหาความจริงก่อนจะกลายเป็นชิ้นจัดแสดงชิ้นต่อไป

ข้อมูลเบื้องต้น

ชื่อไทย: พิพิธภัณฑ์นรก
ชื่อญี่ปุ่น: ミュージアム (Myūjiamu)
แนว: สืบสวน / ทริลเลอร์ / ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ: เคโซะ ชิราอิชิ (Keishi Ōtomo)
นำแสดงโดย: โช ซากุไร (Shun Oguri), ชิโนบุ เทราจิมะ, มาจิโกะ โอโนะ
เข้าฉาย: ปี 2016 (ญี่ปุ่น)
คะแนน IMDb: 6.3 / 10 (ดูข้อมูลบน IMDb)


เรื่องย่อ

ในคืนฝนตกหนักที่โตเกียว ตำรวจหนุ่ม “ฮิซาชิ ซาวามูระ” (Shun Oguri) ถูกเรียกตัวให้มาทำคดีฆาตกรรมสุดสยอง เหยื่อถูกฆ่าและจัดท่าทางเหมือน “นิทรรศการศิลปะ” พร้อมโน้ตเขียนว่า “การลงโทษจากพระเจ้า” …
ไม่นานก็พบศพต่อเนื่อง แต่ละรายถูกฆ่าด้วยวิธีที่สะท้อนบาปของตัวเอง เช่น “คนขี้เกียจ” ถูกจับให้หิวตาย, “คนโกหก” ถูกตัดลิ้น, “คนเนรคุณ” ถูกทุบจนเละ

จุดเชื่อมโยงคือผู้ต้องสงสัยแต่งตัวเป็น “กบ” — หน้ากากกบสีเขียวมีรอยยิ้มอันน่าสะพรึง เหมือนหลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนสยองขวัญ เขาคือฆาตกรต่อเนื่องที่เรียกตัวเองว่า “Frogman” และเป้าหมายต่อไปคือคนที่ “มีบาปที่สุดในเมืองนี้”


สปอยล์ฉบับเต็ม

ซาวามูระเริ่มสืบจนพบว่าคดีทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับ “อดีตเหยื่อที่เขาเคยช่วยไว้” เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งทำให้ชายคนหนึ่งต้องติดคุกและเสียชีวิตในเรือนจำ — เหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลัง “เอาคืน” ตำรวจทีละนิด

คืนหนึ่งเขากลับบ้านและพบว่าภรรยาและลูกชายหายไป เหลือเพียงรูปภาพครอบครัวถูกตัดหน้าออกไปทีละคน และข้อความว่า “นิทรรศการชิ้นสุดท้ายกำลังจะเปิด” ซาวามูระจึงตามร่องรอยไปยังโกดังร้างชานเมือง ที่ถูกจัดให้เป็น “พิพิธภัณฑ์นรก” — ห้องแสดงศพของเหยื่อทุกคน ที่ถูกแต่งท่าทางราวกับผลงานศิลปะสุดวิปริต

เขาพบ Frogman (รับบทโดย Satoshi Tsumabuki) ที่รออยู่และบังคับให้เขานั่งดู “นิทรรศการพิเศษ” ที่ทำขึ้นเพื่อเขาโดยเฉพาะ — ภรรยาและลูกชายของซาวามูระถูกจับไว้ในกรง และ Frogman บอกว่าต้องให้เขา “เลือก” ว่าจะช่วยใคร เพราะอีกคนจะตาย

ในฉากที่บีบหัวใจที่สุด ซาวามูระเลือกภรรยา แต่ระหว่างที่พยายามช่วย Frogman เปิดกับดักอีกชั้น ทำให้ภรรยาและลูกถูกไฟไหม้กรงพร้อมกัน เขาหมดสติในกองเพลิง ขณะ Frogman หัวเราะบ้าคลั่งพร้อมพูดว่า “มนุษย์คือสัตว์เลี้ยงของพระเจ้า — และฉันคือคนดูแลสวนสัตว์นี้”

เมื่อซาวามูระฟื้น เขาถูกพบอยู่ในโรงพยาบาล มีคนบอกว่าฆาตกรตายไปแล้วจากเหตุระเบิด แต่ไม่มีศพยืนยัน เขานั่งอยู่ในความเงียบ ก่อนที่เสียงหัวเราะแผ่วเบาของ Frogman จะดังขึ้นในหัว … บ่งบอกว่าฆาตกรยังมีชีวิตอยู่ และ “นิทรรศการ” ยังไม่จบ


การตีความและประเด็นลึก

  • “พิพิธภัณฑ์” คือภาพแทนของสังคมที่ชอบเสพความเจ็บปวดของคนอื่นผ่านข่าวหรือความบันเทิง
  • Frogman สื่อถึง “ความไร้เหตุผลของพระเจ้า” ที่ลงโทษโดยไม่สนใจศีลธรรม
  • ซาวามูระ เป็นตัวแทนของ “มนุษย์ธรรมดา” ที่พยายามแยกดี–ชั่ว แต่สุดท้ายก็แพ้ต่อระบบและความโหดร้ายของชีวิต

บทวิจารณ์

ผู้กำกับ Keishi Ōtomo (จาก Rurouni Kenshin) ถ่ายทอดความโหดแบบจิตวิทยาได้อย่างหนักหน่วง ใช้โทนภาพหม่น สีฝน และเสียงหยดน้ำที่ดังต่อเนื่องเป็นสัญลักษณ์ของ “บาปที่ล้างไม่ออก” การถ่ายภาพและมุมกล้องชวนอึดอัดทุกวินาที

แม้เนื้อเรื่องบางส่วนจะเดินช้า แต่ความเข้มข้นและบรรยากาศกดดันทำให้ “Museum” กลายเป็นหนังสืบสวนเลือดเย็นที่ยากจะลืม ใครชอบแนว Se7en (1995) หรือ Tokyo Ghoul จะหลงรักความวิปริตและอารมณ์หนักแน่นของเรื่องนี้แน่นอน

คะแนนผู้เขียน: 8 / 10 – โหด มีสไตล์ และสะท้อนด้านมืดของมนุษย์ได้ถึงแก่น

Author: sexymon

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *