
หนังจีนสืบสวน–แฟนตาซีที่ผสมความหลอนและการเมืองได้อย่างมีชั้นเชิง ผลงานใหม่จากแฟรนไชส์ “ตี๋เหรินเจี๋ย” ที่คราวนี้หยิบประเด็นหุ่นเชิดมนุษย์มาผูกเข้ากับคดีลึกลับในราชสำนักลั่วหยาง พร้อมบรรยากาศโบราณที่ทั้งงดงามและชวนขนลุกในเวลาเดียวกัน
เรื่องย่อ
เหตุไฟไหม้ปริศนาในวังลั่วหยางทำให้มีการค้นพบ “ตุ๊กตาหุ่นเชิดมนุษย์” ที่ถูกควบคุมด้วยกลไกประหลาด มีข่าวลือว่าเบื้องหลังคือ “เงาแห่งราชสำนัก” ที่กำลังเตรียมก่อการกบฏ … เพื่อหยุดยั้งโศกนาฏกรรมนี้ จักรพรรดินี อู่เจ๋อเทียน จึงเรียกตัว “ตี๋เหรินเจี๋ย” (Dylan Kuo) อดีตขุนนางนักสืบผู้มีชื่อเสียง ให้กลับมาทำคดีอีกครั้ง เขาต้องร่วมมือกับหญิงลึกลับ He Lan Min Zhi (Kimmy Fei Tong) และมือปราบเก่าที่เกษียณไปแล้ว Shangguan Qiu (Tat-Wah Lok) เพื่อไขความจริงเบื้องหลังหุ่นเชิดที่ “อาจไม่ใช่แค่เครื่องไม้” แต่คือสิ่งมีชีวิตที่มีหัวใจ
สปอยล์เนื้อเรื่องแบบเต็ม
เรื่องราวเริ่มต้นในรัชสมัยของจักรพรรดินีอู่เจ๋อเทียน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่ “หอหุ่นเชิดหยก” ภายในเมืองลั่วหยาง ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายราย รวมถึงขันทีผู้ดูแลหุ่นศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อว่า “หุ่นมนุษย์เทวะ” — หุ่นซึ่งว่ากันว่าเคยใช้ในพิธีราชาภิเษกของจักรพรรดิองค์ก่อน ภายหลังพบว่าร่างของเหยื่อทุกคน “ไร้หัวใจ” และถูกเชื่อมเข้ากับกลไกไม้ประหลาดเหมือนหุ่นเชิดขนาดยักษ์
จักรพรรดินีอู่เจ๋อเทียนทรงเกรงว่าเหตุการณ์นี้จะโยงถึงคำสาปเก่าที่ว่า “เมื่อหุ่นมนุษย์ร้องไห้ อำนาจราชวงศ์จะสั่นคลอน” จึงเรียกตัว ตี๋เหรินเจี๋ย (Dylan Kuo) อดีตขุนนางนักสืบผู้มีชื่อเสียง ซึ่งลี้ภัยอยู่ในชนบทหลังจากขัดคำสั่งราชสำนัก ให้กลับมาทำคดีอีกครั้ง
เมื่อตี๋เหรินเจี๋ยเดินทางถึงลั่วหยาง เขาได้พบกับหญิงสาวชื่อ เฮ่อลั่นหมินจื้อ (Kimmy Fei Tong) ช่างทำหุ่นเชิดที่รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุไฟไหม้ แต่กลับสูญเสียความทรงจำบางส่วน เธอเป็นผู้ถือ “ด้ายสีเลือด” — เส้นไหมโบราณที่ใช้ควบคุมหุ่นด้วยพลังลมปราณ และยังพบว่าด้ายนี้สามารถเคลื่อนไหวได้เองเมื่อมีเสียงดนตรีบางอย่าง
ระหว่างการสืบสวน ตี๋เหรินเจี๋ยพบหลักฐานว่าเหยื่อทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับ “คณะเชิดเงามนุษย์” กลุ่มนักเชิดลับที่เชื่อว่าการเชิดหุ่นจากร่างคนตายจะทำให้วิญญาณกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เขายังพบจดหมายของขันทีที่ตาย ซึ่งกล่าวถึง “โครงการคืนชีพองค์ชายหลิง” — องค์ชายที่ถูกประหารเมื่อสิบปีก่อนด้วยข้อหากบฏ
ความจริงเปิดเผยทีละน้อยว่าเบื้องหลังคดีนี้คือ แม่ทัพซ่งหยูหลิน ผู้จงรักภักดีต่อองค์ชายหลิง เขาวางแผนจะคืนชีพองค์ชายโดยใช้ “หัวใจมนุษย์เจ็ดดวง” และ “หุ่นเทวะ” เป็นภาชนะ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกอย่างพลิกคือหนึ่งในหัวใจนั้นคือของจักรพรรดินีอู่เจ๋อเทียนเอง — เพราะหากพิธีสำเร็จ ราชบัลลังก์จะถูกแย่งโดย “หุ่นที่มีเลือดของราชวงศ์”
ระหว่างที่ตี๋เหรินเจี๋ยสืบคดี เขาเริ่มสงสัยว่าเฮ่อลั่นหมินจื้อไม่ได้เป็นเพียงช่างหุ่นธรรมดา เพราะเธอมักได้ยินเสียงคนเรียกจากในหอหุ่น และสามารถเชิดหุ่นได้โดยไม่ต้องใช้ด้ายจริง ๆ เมื่อเธอสัมผัสหุ่น “หุ่นมนุษย์เทวะ” หุ่นกลับขยับได้เองราวกับมีจิตวิญญาณในตัว
ในฉากไคลแมกซ์ ตี๋เหรินเจี๋ยค้นพบความจริงอันน่าช็อกว่า “เฮ่อลั่นหมินจื้อ” คือหุ่นเชิดมนุษย์ตัวแรกที่แม่ทัพซ่งสร้างขึ้นจากร่างขององค์หญิงฝาแฝดของจักรพรรดินี! เธอถูกใส่หัวใจเทียมที่ทำจากโลหะคุนหลุน ทำให้มีชีวิตครึ่งคนครึ่งหุ่น ความทรงจำของเธอถูกฝังด้วยรหัสเสียงดนตรี และทุกครั้งที่เพลงดังขึ้น ด้ายสีเลือดจะควบคุมเธอให้กลายเป็นเครื่องมือสังหาร
เมื่อพิธีคืนชีพเริ่มขึ้น แม่ทัพซ่งใช้พลังชีวิตของเฮ่อลั่นหมินจื้อเป็นตัวเชื่อมเพื่อชุบองค์ชายหลิง หุ่นเทวะเริ่มเคลื่อนไหว ทั่วทั้งวังสั่นสะเทือน ตี๋เหรินเจี๋ยเข้าขัดขวาง และในวินาทีสุดท้ายเฮ่อลั่นหมินจื้อได้สติ เธอตัดด้ายสีเลือดของตัวเอง ทิ้งพลังชีวิตลงไปในกลไกหุ่นเทวะจนทุกอย่างหยุดนิ่ง
ไฟไหม้อีกครั้ง เศษไม้และโลหะละลายรวมกัน ตี๋เหรินเจี๋ยอุ้มร่างของเฮ่อลั่นหมินจื้อที่กำลังสลาย เขากระซิบคำว่า “เจ้าคือคน ไม่ใช่หุ่น” ก่อนที่เธอจะปิดตาลงอย่างสงบ
หลังเหตุการณ์นั้น จักรพรรดินีสั่งปิดคดีโดยให้ประกาศว่า “ไม่มีหุ่นเชิดมนุษย์ในประวัติศาสตร์” เพื่อป้องกันไม่ให้ความลับแพร่กระจาย ขณะเดียวกันตี๋เหรินเจี๋ยเขียนบันทึกลับเก็บไว้ในหอสมุด หัวข้อว่า “มนุษย์ถูกเชิดโดยอำนาจมากกว่าหุ่นที่เราเชิด”
หนังจบด้วยภาพตุ๊กตาหุ่นหนึ่งตนที่เหลืออยู่ในหอวังเก่า ด้ายสีเลือดค่อยๆ ขยับเล็กน้อย ราวกับจะบอกว่า “เรื่องนี้ยังไม่จบ” …
ตอนจบแบบตีความ
ตอนจบเปิดกว้างให้คนดูคิดต่อว่า “วิญญาณของเฮ่อลั่นหมินจื้อ” ยังสิงอยู่ในหุ่นหรือไม่ และจักรพรรดินีอู่เจ๋อเทียนอาจมีส่วนรู้เห็นในแผนการนี้ตั้งแต่ต้น หนังปิดท้ายด้วยโทนหลอน เงียบ และตั้งคำถามถึง “อำนาจที่ควบคุมคนเหมือนหุ่นเชิด” อย่างเจ็บแสบ
จุดเด่นของภาพยนตร์
- บรรยากาศและงานศิลป์: โทนสีหม่น เน้นเงาและแสงเทียน ทำให้ดูคล้ายหนังสืบสวนโบราณผสมสยองขวัญ ฉากหุ่นเชิดออกแบบละเอียดจนดูมีชีวิตจริง
- เนื้อเรื่องซับซ้อนแต่มีชั้นเชิง: การผูกคดีเข้ากับตำนานและศาสนา ทำให้หนังมีมิติ ไม่ใช่เพียงสืบสวนธรรมดา
- การแสดงของ Dylan Kuo: ถ่ายทอดความนิ่งลึกของตี๋เหรินเจี๋ยได้ดี มีเสน่ห์และน่าเชื่อถือ
ข้อสังเกต
บางฉากอาจเดินเรื่องช้าและต้องใช้สมาธิติดตาม ตัวละครรองมีพัฒนาการไม่มากนัก แต่หากคุณชอบแนวคดี–แฟนตาซีที่เน้นบรรยากาศและความลึกลับ The Mystery of Humanoid Puppet จะตอบโจทย์แน่นอน
บทวิจารณ์โดยรวม
ผู้กำกับ Hai Tao ผสมผสานความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณกับตรรกะสืบสวนได้อย่างแปลกใหม่ หนังมีทั้งฉากลึกลับ ซีนดราม่า และการตั้งคำถามต่อ “อำนาจ” ว่าแท้จริงแล้วใครเป็นคนเชิดหุ่นกันแน่ … มนุษย์หรือระบบที่เราสร้างขึ้นมาเอง
คะแนน IMDb: 6.7 / 10 (ดูรายละเอียด)
คะแนนผู้เขียน: 7.5 / 10 – สำหรับแนวคิดสร้างสรรค์ งานภาพงดงาม และตอนจบที่หักมุมแบบจิตวิทยา
สรุป
The Mystery of Humanoid Puppet คือตัวแทนของหนังจีนแฟนตาซีที่ผสมระหว่างความลึกลับและศิลปะหุ่นเชิดได้อย่างลงตัว ดูแล้วเหมือนได้อ่านนิยายสืบสวนสไตล์ตะวันออกที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์และความเชื่อ หากคุณชอบหนังจักรพรรดิ ตี๋เหรินเจี๋ย หรือแนวคดีเหนือธรรมชาติ นี่คือหนึ่งในผลงานที่ไม่ควรพลาดในปี 2024
